วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555

กลูต้าไธโอน


กลูต้าไธโอน(Glutathione) คืออะไร!!

         สารกลูตาไธโอน เป็นสารที่เซลล์ในร่างกายเราสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้เอง มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง มีหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อของอวัยวะทุกส่วนโดยการต่อต้านอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ที่สำคัญยังช่วยตับในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกาย เช่น ตัวยาหรือสารพิษที่ไม่ละลายน้ำ เมื่อรวมตัวกับสารกลูตาไธโอน จะช่วยให้ละลายน้ำได้และถูกกำจัดออกจากร่างกายได้ในที่สุด สารพิษจำพวกโลหะหนักหรือสารกำจัดแมลง สามารถถูกขจัดออกจากร่างกายได้โดยการทำงานของกลูตาไธโอนร่วมกับตับ 

          สารกลูต้าไธโอนยังมีหน้าที่สำคัญอีกมากมายในร่างกาย เช่น สังเคราะห์โปรตีน ช่วยให้เม็ดเลือดแดงมีความแข็งแรง ช่วยเร่งการซึมผ่านของสารอาหารเข้าสู่เซลล์ ช่วยปกป้องดีเอ็นเอของเซลล์ไม่ให้ถูกทำลาย ซึ่งเป็นการป้องกันการเกิดมะเร็งนั่นเอง 


Glutathione (กลูต้าไทโอน) เป็นสารประเภท Tripeptide ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิด

ได้แก่ Cysteine, Glycine และ Glutamic acid หน้าที่หลักของสารตัวนี่ที่เด่นมีอยู่ 3 ประการ คือ

1. Detoxification : กลูต้าไทโอนช่วยสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกายโดยเฉพาะ Glutathion-S-transferase ที่ช่วยในการกำจัดพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษชนิดไม่ละลายในน้ำ (ละลายในน้ำมัน) เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้แต่ยาบางชนิด ให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีขึ้นและง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตับ1 จากการถูกทำลายโดย แอลกอฮอล์ (สุรา) สารพิษจากบุหรี่ ยาพาราเซตามอลเกินขนาด (Overdose) ฯลฯ

2. Antioxidant : กลูต้าไทโอนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น (Antioxidant) ที่มีความสำคัญตัวหนึ่งในร่างกาย และหากขาดไป วิตามินซีและอี อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่

3. Immune Enhancer : ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย2 โดยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิดเพื่อให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอมรวมถึงเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้กลูตาไทโอน ยังช่วยสร้างและซ่อมแซม DNA สร้างโปรตีนและ protaglandin 

          โดยสรุปสารกลูต้าไธโอน จึงเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายที่มีกำลังสูงเมื่อเปรียบเทียบกับวิตามินซีหรือวิตามินอี เมื่ออายุคนเรามากขึ้นปริมาณกลูตาไธโอนในร่างกายจะลดน้อยลง มีผลทำให้เซลล์และอวัยวะทุกส่วนเสื่อมโทรมลง ในทางตรงกันข้าม นักวิจัยพบว่าผู้ที่มีอายุยืนยาวและมีสุขภาพแข็งแรง มักจะตรวจพบสารกลูตาไธโอนปริมาณสูงในกระแสเลือด

การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์จากสารกลูต้าไธโอน  


          สารกลูต้าไธโอนมีการนำมาใช้เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบเส้นประสาทบกพร่อง เช่น โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์หรือโรคสมองเสื่อม โรคปลายเส้นประสาทอักเสบ มะเร็งกระเพาะ และมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยได้รับการรับรองให้ใช้เป็นยามามากกว่า 30 ปี การรักษามักจะให้โดยการฉีดเข้าเส้นหรือเข้าที่กล้ามเนื้อ อาการข้างเคียงของยาดังกล่าวตอนนี้ยังไม่พบ แต่อย่างไรก็ตามพบว่า สารกลูตาไธโอนมีผลข้างเคียงในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งทำให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนจากเม็ดสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาว ผลข้างเคียงนี้จึงทำให้มีการแตกตื่นและนำกลูต้าไธโอนมาเตรียมเป็นยาเม็ดเพื่อใช้เป็นอาหารเสริม เพื่อชะลอวัย และหวังผลให้ผิวขาวใสหรือผิวขาวอมชมพู

ยาเม็ดกลูต้าไธโอน ได้ผลจริงหรือ ? 
          ในวงการของอาหารเสริม มีการนำสารกลูต้าไธโอนมาทำเป็นยาเม็ดในขนาดความแรงต่างๆ กัน เพื่อใช้ในการรับประทานเป็นอาหารเสริม โดยหวังผลว่า จะสามารถเสริมและทดแทนปริมาณกลูตาไธโอนที่ร่างกายมีไม่พอหรือบกพร่องไป อันเนื่องมาจากสาเหตุของโรคต่างๆ 
          จากการรวบรวมข้อมูลพบว่า สารกลูตาไธโอนจะไม่สามารถถูกดูดซึมจากกระเพาะอาหารได้ เพราะจะถูกย่อยสลายและขับออกทางลำไส้ ดังนั้นการรับประทานยาเม็ดกลูต้าไธโอนจึงไม่ได้รับประโยชน์เลย ไม่ว่าจะกินครั้งละหลายๆ เม็ดหรือในขนาดที่สูงมากๆ ก็ตาม

กลูต้าไธโอนช่วยให้ผิวขาวได้จริงหรือ? 
          ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น อาการข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ของการใช้ยากลูต้าไธโอนคือ การยับยั้งการสร้างเซลล์เม็ดสีให้ผิวหนัง รวมทั้งการเปลี่ยนเม็ดสีที่สร้างขึ้นจากสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาว จึงมีการคิดนำเอาสารชนิดนี้มาใช้เป็นอาหารเสริมโดยหวังว่า จะสามารถเสริมและเพิ่มความเข้มข้นของกลูต้าไธโอนในกระแสเลือดให้มากๆ เพื่อหวังผลให้ผิวหน้าขาวอมชมพู แต่ในความเป็นจริงยาเม็ดที่เป็นอาหารเสริมนั้น ทานมากเท่าไหร่ก็จะไม่ได้ผล เพราะสารชนิดนี้จะถูกย่อยสลายและกำจัดออกจากร่างกาย ไม่ถูกดูดซึม แพทย์หลายสำนักจึงได้มีการดัดแปลงโดยทำการฉีดเข้าเส้นหรือเข้ากล้ามเนื้อเช่นเดียวกับการรักษาโรคต่างๆ อย่างไรก็ตามอาการข้างเคียงของผิวขาวเป็นอาการชั่วคราวเท่านั้น จึงไม่ควรใช้ยานี้ในทางที่ผิด


กลูต้าไธโอนในธรรมชาติ 
          พบมากในผลไม้ ได้แก่ แตงโม สตรอเบอรี่ องุ่น ผลอโวกาโด ส่วนในผักพบมากใน หน่อไม้ฝรั่ง สำหรับเนื้อสัตว์จะพบได้ใน ปลา และเนื้อแดง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว จะพบมากใน Asparagus อะโวกาโด และ Walnut ร่างกายเราก็สามารถสร้างกลูต้าไทโอนได้และมีสารหลายชนิดที่ช่วยเพิ่มการสร้างได้แก่ Alpha lipoic acid, Glutamine3, Methionine, Whey Protein, Vitamin B-6, Vitamin B-2 , Vitamin C4 และ Selenium 
ดังนั้นควรเลือกรับประทานจากธรรมชาติดีกว่าที่จะหลงไปใช้สารนี้อย่างผิดๆ และขาดความเข้าใจ

ที่มา ::: http://www.tlcthai.com

วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555

วิธีทำให้ผิวขาวสำหรับคนอยากขาว

วิธีที่ 3 การใช้สารเคมี
(ตอนที่ 1 วิธีธรรมชาติ)
(ตอนที่ 2 การพึ่งพาผลิตพรรณต่าง ๆ)


วิธีการใช้สารเคมีนั้นมีหลายทาง  ซึ่งนู๋จะขออธิบายวิธีที่ใช้กันบ่อย ๆก็แล้วกันนะคะ
1.กลูต้าไธโอน  ที่เห็นในท้องตลาดจะมีให้เห็นอยู่ไม่กี่ประเภท  คือ  แบบฉีด ,แบบเม็ด  ,แบบดื่ม  ,แบบทาตัว
          ขอสรุปความเข้าใจง่ายๆนะค่ะ  กลูต้าก็คือสารตัวหนึ่งที่ร่างกายสามารถผลิตเองได้  กลูต้าทำหน้าที่ขับสารพิษในร่างกาย  ดังนั้นทางการแพทย์จึงนำกลูตามาใช้ในการรักษาคน  และผลกระทบจากการรักษานั้นทำให้ผู้ป่วยขาวขึ้น  ดังนั้นจึงมีคนนำกลูต้ามารับประทานเพื่อให้ขาวขึ้น
          แต่ร่ายกายของคนเราดูดซึมกลูต้าได้น้อยมาก  เมื่อเราทานกลูต้าเข้าไป  มันจะไปยับหยั้งการเกิดของเม็ดสี  ทำให้เราขาวขึ้น  แต่เมื่อเวลาผ่านไปมันก็จะย่อยสลายไปเอง  เม็ดสีมีการผลิดอยู่เรื่อยๆ  เมื่อเราทานกลูต้ามันก็แต่ยับยั้งได้ชั่วคราว พอสารหมดฤทธิ์เม็ดเลือดก็จะเกิดขึ้นมาใหม่ตามธรรมชาติ
          ดังนั้นเพื่อให้เราสามารถรับสารกลูต้าที่เรากินได้มากที่สุดเราจึงต้องทานพร้อมกับวิตมินซี  เพราะวิตมินซีช่วยในการดูดซึมได้
          ผลดีของสารกลูต้าคือช่วยยับยั้งการเกิดของเม็ดสี  ทำให้เราแลดูขาวขึ้น  แต่ผลเสียก็คือสารกลูต้าจะยับยั้มเม็ดสีของทุกอวัยวะของร่างกาย  ดังนั้นบางส่วนที่เราต้องการสีดำ เช่น ลูกตาดำ  เมื่อเราได้รับสารกลูต้าเม็ดสีของดวงตาก็มีสิทธิที่จะอ่อนลงๆ  เมื่อทานในปริมาณที่มากและเป็นระยะเวลานาน เราอาจจะตาฝ้ามัว และทำให้เราตาบอดได้นั้นเอง  นอกจากนี้กลูต้าก็อาจจะเป็นอันตรายทำสรับคนที่แพ้สารกลูต้าถึงชีวิตได้

2.การลอกผิว


เด๋วจะมาต่อให้จบนะคะ ขอรวบรวมข้อมูลก่อนนะคะ !!

วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

วิธีทำให้ผิวขาวสำหรับคนอยากขาว

ตอนที่ 2 การพึ่งพาผลิตพรรณต่างๆ
(ตอนที่ 1 วิธีธรรมชาติ)


1.โลชั่น  ทำไมคนเราต้องทาโลชั่น  เพราะผิวของคนเราโดนแดด โดนอากาศ  ผ่านร้อนผ่านหนาวทุกวัน  ถ้าคุณไม่ทาโลชั่นเพื่อให้ความชุ่นชื้นแก่ผิว  ผิวของคุณก็จะเหี่ยวแห้ง แต่ถ้าหาคุณทาโลชั่นทุกครั้งหลังอาบน้ำผิวของคุณก็จะมีความชุ่มชื้นและไม่เป็นเกล็ดที่ขาเหมือนนางเงือกหรอกนะ ^^ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าโลชั่นเพียงแต่ช่วยให้ความชุ่มชื้น ผิวเนียนขึ้น เท่านั้น!!  อาจจะทำให้คุณขาวขึ้นนิดนึง (นิดนึงจิงๆ แล้วพอคุณโดนแดดคุณก็จะดำเท่าเดิมหรือดำกว่าเดิม)


2.ครีมกันแดด  ทำไมเราต้องใช้ครีมกันแดดในเมื่อเราทาโลชั่นแล้ว -*-  ก็เพราะว่าโลชั่นทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื้น  ส่วนครีมกันแดดทำหน้าที่กันแดดนะซิ  ครีมกันแดดไม่ได้ทำให้คุณขาวขึ้นนะเพียงแต่ทำให้คุณไม่ดำไปมากกว่าเดิมเท่านั้น  แล้วฉะนั้นจะใช้ทำไมละ  ก็ถ้าคุณไม่ใช้ครีมกันแดดคุณก็จะดำลง ๆ ขึ้นทุกวัน  แต่ถ้าคุณใช้มันคุณก็จะป้องกันไม่ให้ผิวดำลงได้  หรือถ้าดำลง100%  เมื่อคุณทาครีมกันแดดมันอาจจะช่วยให้คุณดำขึ้นเพียงแค่ 10-30% เท่านั้น


3.วิตตามินC  ช่วยทำให้ผิวคุณเนียนใสขึ้น   เพราะนอกจากจะทำให้ผิวเราเนียนใสแล้วนั้นยังช่วยให้เราไม่เป็นหวัดอีกด้วยนะ  วิตตามินCก็มีหลายยี่ห้อ  หลายแบบ  ถ้าอยากให้หน้าขาวใสก็ซื้อแบบเซรั่มวิตามินซี  มาทาหน้าก็จะทำให้หน้าขาวใสได้  ในที่นี้ก็อยู่ที่งบของแต่ละคนนะว่าจะหามาใช้ได้มากน้อยแค่ไหน   อีกอย่างที่อยากแนะนำและถ้าคุณอยากที่จะขาวหรือมีผิวที่ดีจริงๆ คุณต้องซื้อยาวิตตามินCมากินทุกวัน  จะยี่ห้อไหนก็ได้  แต่ก็อยากแนะนำแบล็กมอร์ อีกนั่นแหละ เหตุผลนะเหรอ  เพราะของเขาสกัดจากธรรมชาติ100%
              ยามี 2แบบนะ  แบบสกัดจากธรรมชาติ  กับแบบสังเคราะห์  แล้วมันต่างกันอย่างไรละ  ชื่อมันก็บอกอยู่แล้ว  สกัดจากธรรมชาติก็คือสกัดจากพืชหรือผลไม้ที่ให้วิตตามินCเพื่อมาเก็บไว้ในรูปที่เราจะใช้งานได้   ส่วนแบบสังเคราะห์ก็หมายถึงการนำสารเคมีมาหาโมเลกุลเพื่อให้ได้ผลลัพเท่ากับหรือใกล้เคียงวิตตามินCธรรมชาติมากที่สุด  แล้วมันจะมีอะไรต่างกันอีกละ  แน่นอนราคาต้องต่างกันเพราะแบบสารสกัดจากธรรมชาติต้องใช้ต้นทุนที่สูงกว่า  วิธีที่ยากกว่า  แต่หากเราต้องรับประทานในระยะเวลาที่นานกว่ายาที่สกัดจากธรรมชาติย่อมปลอดภัยกว่า  ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย  แต่ถ้าคุณทานยาจากการสังเคราะห์คุณต้องหยุดทานทุก 3-6เดือน  แล้วค่อยเริ่มทานใหม่  เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง
             มาต่อกันเรื่องของเรา อิอิ  ที่แนะนำของแบล็กมอร์เพราะ 1.หาซื้อง่าย 2.บรรจุพรรณของเขาป้องกันแสงแดด  วิตตามินCนะจริงๆราคาถูกแต่มันแพงเพราะการเก็บรักษาให้คุณค่ามันคงอยู่ถึงมือเรานี่ซิยาก  ฉะนั้นแนะนำให้คุณซื้อของแบล็อกมอร์มากินก่อนแล้วคุณจะเปลี่ยนไปซื้อของยี่ห้ออื่นหรือของคนไทยก็ได้แล้วนำมาใส่กระปุกเดิม
        วิธีการทานยาวิตามินซี  ร่างกายของคนเราสามารถรับคุณค่าของวิตามินCได้เพียงวันละ 1000-1500กรัม ต่อวัน  ต่อให้กินวันละหลายเม็ดก็ไม่ช่วยให้คุณขาวเร็วขึ้น  เมื่อเรากินเข้าไปเหลือจากที่ร่างกายรับได้ต่อวันแล้วนั้นสารเหล่านั้นก็จะออกมากับฉี่ของเรานั้นเอง  และข้อแนะนำอีกอย่างคือ  ถ้าคุณกินวิตามินCแล้วนั้นคุณต้องดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ  เพราะยิ่งคุณดื่มน้ำเยอะ  วิตามินCเป็นสารละลายน้ำมันก็จะทำให้มีปริมาณที่มากขึ้นและเราจะรับคุณค่ามากยิ่งขึ้น
 


วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

วิธีทำให้ผิวขาวสำหรับคนอยากขาว

ตอนที่ 1 วิธีธรรมชาติ
(ตอนที่ 2 การพึ่งพาผลิตพรรณต่าง ๆ)


1.อาบน้ำบ่อยๆ  หลายคนในที่นี้อาจจะอาบน้ำวันละครั้ง  แต่อยากจะบอกว่าถ้าคุณอยากขาว  ควรอาบน้ำอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน  หรือ เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอนได้ยิ่งดี  เพราะเหงื่อของเราไหลออกมาทุกเวลา  และเมื่อเหงื่อที่ไหลออกมาแห้งแล้วก็จะสะสมอยู่บนผิวของเรา  ใช่ว่าการอาบน้ำครั้งหนึ่งจะช่วยขจัดเหงื่อของเราได้หมด  ฉะนั้นอย่าขี้เกียจที่จะอาบน้ำก่อนนอน (รู้นะหลายคนไม่อาบ อิอิ)


2.บวบขัดตัว ,หินขัดตัว  ช่วยคุณได้  สิ่งเหล่านี้ช่วยคุณได้จริงๆ ไม่เชื่อลองหามาใช้ดูซิแล้วคุณจะรู้  ถ้าขี้เกียจก็แนะนำให้ขัด 3 วันต่อสัปดาห์เป็นอย่างน้อย  รับลองได้ว่าคุณจะได้ขี้ไครอออกมาเยอะเชียวละ


3.มะขามเปียก  อยากผิวขาวอย่างเดียวไม่พอต้องมีผิวที่ใสด้วย  ขอแนะนำมะขามพะเยา  ลองหาในอากู๋ดูแล้วกัน  ของเขาใช้ดีจริงๆ  ราคาก็ไม่แพง กิโลละไม่กี่บาท  ถ้าเทียบกับซื้อมะขามเปียกแบบที่ใช้ในครัวก็ราคาพอๆกัน  แต่ของมะขามพะเยาเขาผมสน้ำผึ้งและผงขมิ้นด้วย  อันนี้ก็แล้วแต่สะดวกของแต่ละบุคคลแล้วกันไม่ว่ากัน  แต่ที่อยากจะบอกก็คือ  มะขามมีกรดอาห้า  หรือ AHA สูง  เมื่อเรานำมาขัดตัวจะช่วยผลัดเซลผิวทำให้ผิวใสได้  วิธีใช้ก็คือ  นำมะขามมาขัดตัวแล้วทิ้งไว้ 30นาที ใช้กับหน้าก็ได้นะ  แต่แนะนำให้ทิ้งไว้แป๊ปเดียวก็พอ  ไม่งั้นจากที่หน้าจะใส สิวจะถามหาได้นะจ๊ะ  แต่ถ้าอยากให้ผิวเนียนนุ่มด้วย  ก็ผสมโยเกิท กับนมลงไปด้วยซิ


4.ผงขมิ้น  เรารู้จักการใช้ผงขมิ้นมาแต่โบราณแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากที่จะช่วยให้ผิวเราเหลืองสวย (เหลืองใสนะ ไม่ใช่ว่าทาแล้วผิวจะดำขึ้นนะ  มันจะทำให้ผิวเราสวยขึ้นนะจะบอกให้  ใสด้วย)  นอกจากผงขมิ้นจะทำให้ผิวเราสวยแล้วนั้น  ผงขมิ้นยังช่วยฆ่าเชื้อได้อีกด้วย  แล้วผิวของคนเราจะไม่มีเชื้อโรคหรืออะไรแฝงด้วยอยู่เลยหรือ  ถ้าไม่มีเวลามากนัก  อาทิตย์ละ 1 ครั้งก็ยังดี  ผอกๆ ไปเหอะแค่ 30นาทีเอง


5. ขัดสครับบ้าง  ถ้าไม่อยากซื้อสำเร็จรูปที่มีขายอยู่หลายยี่ห้อในตลาดเพราะมันละลายเร็วหรือยังไงเราก็สามารถทำสครับขัดตัวได้เองนะ  ส่วนผสมก็คือ  เกลือไอโอดีนเม็ดละเอียด  (ปล.อย่าใช้เกลือถุงละบาทละ ไม่งั้นผิวคุณอาจจะถลอกได้ อิอิ)  นมผง  น้ำผึ้ง คุณสามารถจับคู่ของสิ่งที่ได้กล่าวมาแล้วนำมาขัดตัวได้ เช่น  เกลือ+นมผง (ช่วยให้ขัดผิวและผิวเนียนนุ่ม)  เกลือ+น้ำผึ้ง (.ช่วยให้ขัดผิวและผิวนุ่มมากๆ) หรือจะผสมทั้ง 3 อย่างเลยก็ได้  หรือคุณอยาจจะใช้นมผงขัดตัวอย่างเดียวก็ได้ วิธีคือ คุณนำนมผงมาขัดตัวอาจจะผสมผงขมิ้นหรืออะไรก็ได้ แล้วผอกทิ้งไว้  เมื่อมันแห้งแล้วคุณก็ค่อยๆเอานิ้วขัด ๆ  มะจะหลุดออกมาคล้ายๆเป็นขี้ไคร ลองดูนะ

6.กินผลไม้บ้างอะไรบ้าง  เช่น  ฝรั่ง (มีวิตามินCสูง)  สัปปะรด (AHAสูง) ถ้าอยากมีผิวขาว  ผิวใสก็กิน ทุกๆวัน

ปล.มีอะไรสงสัยถามไว้ได้นะคะ  เด๋วนู๋จะพยายามเข้ามาตอบให้ค่ะ ..

ทักทายค่ะ


                บล็อกนี้จะนู๋พยายามรวมรวมวิธีทำให้ผิวขาว  สำหรับคนที่อยากขาวนะคะ  โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าผิวขาวจะทำให้เราดูดีและมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นค่ะ  แต่ถึงแม้ผิวเราจะไม่ขาวนะคะ  แต่ถ้าผิวเราเนียนนุ่มและดูสุขภาพดีก็สวยไม่แพ้ผิวขาวค่ะ  ดังนั้นบล็อกนี้นู๋จึงรวมรวมข้อมูลที่นู่ได้เรียนรู้และจากการปฎิบัติจริงมาอธิบายให้เพื่อนๆเข้าใจโดยง่ายนะคะ  โดยจะแยกวิธีออกเป็น 3 แบบนะคะ  คือ วิธีทางธรรมชาติ   วิธีพิ่งพาผลิตพรรณต่างๆ  วิธีสารเคมี  ให้เพื่อนเลือกใช้กันนะคะ

                   แต่อยากจะบอกไว้ก่อนนะคะว่าต่อให้คุณอยากขาวแค่ไหน  อ่านเยอะแค่ไหน  แต่ถ้าไม่นำไปใช้จริงมันก็ไม่ช่วยให้ผิวเราขาวขึ้นมาได้นะคะ  อย่างเช่นวิธีการเบื้องต้นที่ทุกคนรู้แต่ไม่ค่อยทำกันก็คือ  การใช้ร่มเวลาเดินออกกลางแจ้ง  หรือการใส่เสื้อคลุมป้องกันแสงแดดในแต่ละวัน  ซึ่งมันช่วยได้เยอะเลยและเห็นผลง่ายๆ  และยังมีการดื่มน้ำเยอะๆ หรือนอนพักผ่อนให้เพียงพอ  วิธีง่ายๆแต่มันยากที่จะปฎิบัติกันใช่มั้ยละคะซึ่งนู๋ก็เข้าใจ  วิธีที่จะมาบอกนั้นจึงสามารถช่วยให้คนที่อยากขาว  ขาวขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็วได้แน่นอนค่ะ  :P